ข้อดีข้อเสียของการขายออนไลน์ใน รูปแบบอีคอมเมิร์ซ

ผู้ขายออนไลน์เป็นตัวแทนกลุ่มใหม่ของการแข่งขันสำหรับร้านค้าใกล้เคียงที่ขายปลีก ในทางกลับกันการเพิ่มช่องทางออนไลน์ทำให้ผู้ค้าปลีกมีโอกาสใหม่ๆ ของการเติบโตทางด้านธุรกิจมากขึ้น หากคุณยังสงสัยว่าการเพิ่มช่องทางขายของออนไลน์แบบอีคอมเมิร์ซนั้นมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างลองมาอ่านบทความนี้ไปพร้อมๆ กันได้เลย

ข้อดีของอีคอมเมิร์ซ

  • ขยายฐานลูกค้าใหม่

ขายออนไลน์ที่ช่วยให้คุณเข้าถึงประชาชนมากขึ้น สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนทั่วประเทศหรือแม้กระทั่งทั่วโลก มันอาจช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้คนที่อยู่บ้านไม่สามารถออกไปซื้อของได้ เนื่องจากพื้นที่ไม่อำนวย หรือคนที่ชอบซื้อของออนไลน์อยู่แล้ว

  • เข้าถึงสินค้าได้ง่าย

ด้วยเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซคุณสามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของคุณได้ โดยที่คุณแทบไม่ต้องมาตอบลูกค้าเองเลย ตัวอย่างเช่นคุณสามารถเสนอ Click and Collect / Buy Online Pickup In Store (BOPIS) เพื่อให้ลูกค้าของคุณสามารถเรียกดูสินค้าในคลังของคุณทางออนไลน์ และสามารถกดลงรถเข็นและสั่งซื้อได้อย่างทันที นอกจากนี้เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซยังช่วยให้คุณสามารถเสนอบริการจัดส่งถึงบ้าน และลิงค์ด่วนไปยังข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายมากขึ้น

  • ข้อมูลเชิงลึกที่มากขึ้นเกี่ยวกับฐานลูกค้าของคุณ

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสามารถให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียกดูและการซื้อของลูกค้ากับเราได้ ซึ่งเมื่อรวมกับข้อมูลในร้านจากระบบจุดขาย (POS) หรือเทคโนโลยีอื่นๆ แล้วจะทำให้คุณได้มุมมองแบบ 360 องศาของผู้ซื้อแต่ละรายเลยทีเดียว ข้อมูลเชิงลึกนี้ช่วยให้คุณปรับแต่งบริการปรับแต่งโปรโมชั่นหรือกำหนดเป้าหมายข้อเสนอที่หน้าดึงดูดความสนใจของลูกค้า เพื่อสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

  • การทำงานแบบอัตโนมัติของระบบ

ด้วยระบบที่เหมาะสม ผู้ซื้อในร้านสามารถเลือกสินค้าลงในตะกร้าได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเลือกใหม่เมื่ออกจากระบบ การจัดการอีคอมเมิร์ซด้วยสินค้าคงคลังในร้าน ช่วยให้คุณสามารถค้นหาสินค้าได้ง่าย รู้ถึงขนาด สี และปริมาตรที่เหลืออยู่ในปัจจุบันซัพพลายเชนของคุณและส่งไปยังลูกค้าเพื่อช่วยลดเวลาการขาย ทำให้การซื้อขายสะดวกมากยิ่งขึ้น ต่อให้คุณนอนหลับอยู่ก็ตาม

ข้อเสียของอีคอมเมิร์ซ

  • ปัญหาการรวมซอฟต์แวร์

หากโซลูชันอีคอมเมิร์ซของคุณไม่ผสานรวมกับการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ฐานข้อมูลลูกค้าจุดขาย (POS) และระบบธุรกิจอื่นๆ อย่างราบรื่นคุณจะเสียเวลาไปกับการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนและอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาได้ เลือกใช้แพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่สามารถจัดการซอฟต์แวร์ได้อย่างลงตัวและแชร์ข้อมูลจากทุกช่องทางทั่วทั้งองค์กรของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การมองเห็นสินค้าคงคลังไม่ดี

ในทำนองเดียวกันหากคุณพยายามจัดการสินค้าคงคลังสำหรับสถานที่ตั้งจริงแยกจากช่องทางออนไลน์คุณ (และลูกค้าของคุณ) ต้นทุนของสต็อกความปลอดภัยและการโอเวอร์สต็อกก็จะสูงขึ้นเช่นกัน แก้ปัญหานี้ด้วยการจัดการสินค้าคงคลังด้วย Single Stock Pool

  • การใช้งานที่ไม่ปะติดปะต่อ

ลูกค้าของคุณคาดหวังประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดี ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกซื้อสินค้ากับแบรนด์ของคุณผ่านช่องทางใดก็ตามสินค้าราคาแม้กระทั่งรูปลักษณ์ของหน้าร้านจริงและหน้าร้านออนไลน์ของคุณก็ควรจะเหมือนกันในทุกช่องทาง นักช้อปเกือบทุกคนใช้ช่องทางในการซื้อหลายช่องทาง สร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ได้มาตรฐานในการบริการลูกค้าและภาพลักษณ์แบรนด์ของคุณให้ดีในทุกช่องทาง

  • ตอบสนองต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ไม่ดี

ผู้บริโภคจำนวนมากชอบซื้อของผ่านสมาร์ทโฟน ในความเป็นจริง eMarketer รายงานว่ายอดขาย mCommerce ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 1.357 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2560 ซึ่งคิดเป็น 58.9% ของการใช้จ่ายอีคอมเมิร์ซโดยรวม  นอกจากนี้ mCommerce คาดว่าจะมีสัดส่วน 72.9% ของอีคอมเมิร์ซภายในปี 2564  ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณตอบสนองต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่หรือคุณมีแอปสำหรับ mCommercec แล้วหรือยัง

การเปิดตัวช่องทางอีคอมเมิร์ซนั้นสามารถเข้าถึงพื้นที่ของฐานลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น ทำให้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเมื่อเว็บไซต์ของคุณมีผู้ให้ความสนใจมาก คุณต้องหลีกเลี่ยงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ด้วย กลยุทธ์ที่เหมาะสม เทคโนโลยีที่ทันสมัย และขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ธุรกิจของคุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการขายของออนไลน์แบบอีคอมเมิร์ซ