วิธีรักษาข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัยเมื่อใช้สื่อสังคมออนไลน์

การใช้งานสื่อสังคมออนไลน์มักจะหมายถึงการติดต่อสื่อสารกับผู้คนบนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งอาจมีทั้งคนที่รู้จักคุ้นเคยกันในชีวิตจริง และคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย มิตรภาพใหม่สามารถเกิดขึ้นง่ายดายเพียงแค่ใช่สื่อสังคมออนไลน์ร่วมกัน แต่นั่นก็หมายความว่าคุณมีความเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางที่ผิด ดังนั้นคุณควรจะคิดให้ดีทุกครั้งเวลาที่จะใช้งานสื่ออนไลน์ใดๆ ควรทำให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้พาตัวเองไปหาความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น วิธีที่จะช่วยให้คุณรักษาข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย มีดังนี้

ข้อมูลเนื้อหาในหัวข้อนี้

1. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวคือพื้นฐานสำคัญที่คุณต้องจดจำให้ขึ้นใจเมื่อใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ คุณควรตรวจสอบการตั้งค่าของคุณอยู่เสมอเพื่อปรับปรุงแก้ไขความเป็นส่วนตัวให้เหมาะสม สื่อออนไลน์บางประเภทสามารถจัดการการตั้งค่าเฉพาะโพสต์นั้นๆ ได้ จึงช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการข้อมูลส่วนตัวของตัวเองได้ง่ายดายขึ้นว่าจะแบ่งปันเรื่องราวนั้นกับใครบ้าง และสามารถปกปิดเรื่องส่วนตัวจากคนนอกได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้คุณควรที่จะเลือกตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เห็นได้เฉพาะเพื่อนของคุณเท่านั้น นั่นจะช่วยป้องกันไม่ให้คนที่คุณไม่รู้จักนำข้อมูลของคุณไปใช้ ทำให้ข้อมูลของคุณได้รับการปกป้องให้ปลอดภัยไปอีกขั้นหนึ่ง

2. เลือกรับเพื่อนที่คุณไว้ใจเท่านั้น

การเลือกรับเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรจะระมัดระวังไว้ หลายคนมักชอบใจที่ตนเองได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่คนที่คุณรับเป็นเพื่อนหรืออนุญาตให้เขาติดตามข้อมูลส่วนตัวของตัวคุณเองได้ พวกเขาสามารถไว้ใจได้มากแค่ไหนกัน การเลือกรับเฉพาะคนที่คุณแน่ใจได้ว่าพวกเขาเป็นคนรู้จักที่ดีและจริงใจต่อคุณจะช่วยป้องกันไม่ให้ความเป็นส่วนตัวของคุณรั่วไหลไปสู่คนอื่นภายนอก ทำให้คุณสามารถบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองได้อย่างสบายใจกว่าเดิม

3. ไม่บอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวมากจนเกินไป

ทุกคนล้วนมีเรื่องราวที่อยากบอกเล่าออกไป แต่จะดีกว่าไหมถ้าคุณเล่าเรื่องราวบนอินเตอร์เน็ตเพียงแค่เรื่องทั่วไปที่ไม่สำคัญหรือเป็นส่วนตัวเท่าไรนัก คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเมื่อไรบ้างที่ข้อมูลนั้นจะหลุดไปสู่คนอื่นไกลที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน ซึ่งหากข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ทำให้คุณเกิดความไม่ปลอดภัย คุณก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ดังนั้น คุณควรคิดให้ดีทุกครั้งก่อนที่จะโพสต์อะไรในโลกออนไลน์ หากเป็นไปได้อย่าระบุสิ่งที่เฉพาะเจาะจง เช่น ชื่อผู้คน สัตว์เลี้ยง ที่อยู่บ้าน สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณกำลังจะไป วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรส่วนตัว บางอย่างอาจจะบอกเล่าได้บ้าง แต่คุณควรระวังว่าผู้อื่นสามารถนำไปใช้แอบอ้างเป็นตัวคุณเองได้เสมอ รวมถึงอาจนำไปใช้ในการแฮคเข้าข้อมูลของคุณได้อีกด้วย

4. หลีกเลี่ยงการกดรับลิงค์เว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก

หลายครั้งที่คนเราได้รับลิงค์แปลกประหลาดมาและก็กดรับไปด้วยความรู้สึกสนใจ แต่กลับกลายเป็นว่าลิงค์นั้นทำให้คุณได้ไวรัสกลับมาแทน คุณจึงควรระวังเข้าไว้เวลาที่ต้องเข้าสู่เว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก การหลีกเลี่ยงไม่กดรับลิงค์เหล่านี้เลยจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้คุณได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเพื่อนของคุณผู้ส่งลิงค์ยืนยันมาว่าไม่มีปัญหา นั่นจะเชื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้นมาบ้าง นอกจากการกดรับลิงค์เว็บแปลกๆ แล้ว การเข้าสู่เว็บไซต์บางเว็บก็อาจมีโฆษณาอันตรายมากมาย คุณควรใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างระมัดระวัง ไม่ไปกดยังโฆษณาแปลกๆ เหล่านั้นเลยจะดีที่สุด

5. ไม่เชื่อมโยงบัญชีเข้าด้วยกัน

การเชื่อมโยงทุกบัญชีเข้าด้วยกันอาจทำให้คุณสามารถเข้าใช้งานโซเชียลมีเดียที่หลากหลายได้ง่ายดายขึ้น แต่นั่นหมายถึงการเพิ่มความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวของคุณด้วย จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนแฮคเข้าเฟสบุ๊คของคุณได้ แล้วคุณก็เคยทำการเชื่อมโยงทุกโซเชียลเข้าด้วยกันไว้ ไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ อินสตาแกรม หรือโซเชียลมีเดียอื่นใด การเชื่อมโยงจะทำให้มิจฉาชีพของคุณได้ข้อมูลของทุกบัญชีไปพร้อมๆ กัน ผ่านการแฮคเพียงแค่บัญชีเดียว

6. ใช้รหัสผ่านที่คาดเดายาก

คุณเคยมีประสบการณ์ในการจำรหัสผ่านของตัวเองไม่ได้บ้างไหม การใช้รหัสซ้ำๆ อาจทำให้การจดจำรหัสผ่านเป็นเรื่องง่ายดายขึ้น แต่ผู้ที่จะแฮคเข้าบัญชีของคุณก็จะเข้าถึงทุกบัญชีที่คุณใช้ได้ง่ายขึ้นด้วย การตั้งรหัสผ่านให้มีความแตกต่างกันบ้างจะช่วยป้องกันอันตรายจากการเข้าถึงโดยผู้ไม่หวังดีได้ ทำให้คุณมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากกการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์

7. แยกอีเมลแต่ละบัญชีออกจากกัน

ผู้คนมากมายมักจะใช้อีเมลในการสมัครบัญชีต่างๆ รวมไว้ในอีเมลเดียวกัน นั่นทำให้การจัดการบัญชีเป็นเราองง่าย และยังสามารถกู้คืนบัญชีที่หลงลืมรหัสผ่านได้ง่ายดายขึ้นด้วย แต่คุณคงไม่ชอบใจถ้าสุดท้ายแล้วอีเมลนั้นถูกมิจฉาชีพแฮคเข้าไป แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับบัญชีทั้งหมดของคุณล่ะ? เพียงแค่ถูกแฮคอีเมลแค่ครั้งเดียวก็ทำให้คนร้ายเก็บเกี่ยวข้อมูลส่วนตัวของคุณได้แบบทะลุปรุโปร่งไปจนหมด ถ้าคุณไม่อยากเจอปัญหาน่าสลดใจแบบนี้ แยกอีเมลของแต่ละบัญชีออกจากกันไว้จะดีกว่า

การดูแลข้อมูลส่วนตัวของตัวเองให้ปลอดภัยอยู่เสมอจะช่วยลดโอกาสการเจอกับเรื่องเลวร้ายที่ไม่คาดคิดได้ ถึงแม้สื่อสังคมออนไลน์จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่เราคุ้นเคยมากยิ่งกว่าอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะปลอดภัยกับเราตลอดเวลา การระมัดระวังตัวเองไว้จะดีกว่าการไม่เรียนรู้ที่จะป้องกันอะไรเลย ดังนั้น เราขอแนะนำอย่างจริงใจและจริงจังว่าคุณควรจะนำวิธีรักษาข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัยเหล่านี้ไปใช้ เพื่อประโยชน์ต่อความปลอดภัยในชีวิตและความปลอดภัยในข้อมูลส่วนตัวของตัวคุณเอง