ผลกระทบเชิงบวกของสื่อสังคมออนไลน์ที่มีต่อสังคมในปัจจุบัน

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้คนเราที่มีความห่างไกลกันสามารถมีเครือข่ายสังคมร่วมกันได้อย่างง่ายดาย สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของคนเราทุกคน จนไม่มีใครที่สามารถเมินเฉยต่อความเปลี่ยนแปลงทางสังคมนี้ไปได้เลย เมื่อทุกคนมีความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเองก็ทำให้เกิดผลกระทบหลายอย่างต่อสังคม สำหรับผลกระทบเชิงบวกของสื่อสังคมออนไลน์ที่มีต่อสังคมในปัจจุบันสามารถอธิบายกว้างๆ ได้ดังนี้

ข้อมูลเนื้อหาในหัวข้อนี้

ช่วยให้เราสามารติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

การติดต่อสื่อสารกันผ่านเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยกันอยู่ในทุกวัน ความเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของแต่ละคนอาจมีตั้งแต่วินาทีแรกที่ตื่นนอนไปจนถึงตอนที่จะนอนหลับอีกครั้ง คนส่วนใหญ่ล้วนต้องการที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่รู้จักใกล้ชิดเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดและแบ่งปันข้อมูลข่าวสารแก่กันและกัน เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาให้การสื่อสารกับคนที่อยู่ห่างไกลกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที สิ่งนี้ช่วยเปลี่ยนแปลงโลกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง พวกเราสามารถติดต่อกับคนที่อยู่ห่างไกลอีกฟากหนึ่งของโลกได้ในเวลาไม่นาน การบอกเล่าเรื่องราวข่าวสารจากที่ไกลแสนไกลจึงกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปอย่างง่ายดาย

สร้างเสริมมิตรภาพความสัมพันธ์ให้ผูกพันแน่นแฟ้น

คุณเคยมีเพื่อนสักคนที่ต้องเหินห่างกันไปเพราะความไกลบ้างไหม เมื่อคนเราต้องห่างไกลกันก็อาจทำให้ไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดสนิทสนมเหมือนเดิมได้อีก แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะสามารถติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ได้ แต่นั่นก็ไม่สามารถช่วยให้เราแบ่งปันเรื่องราวในชีวิตได้อย่างครบถ้วนชัดเจน ยุคปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นว่าความห่างไกลไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผู้คนรู้สึกกังวลเลย เพราะเราสามารถแบ่งปันเรื่องราวผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ที่มีอยู่มากมาย ช่วยให้เราสามารถแบ่งปันได้ทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพวิดีโอของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แม้ว่าเรากับเพื่อนอาจไม่ได้เจอกันบ่อยครั้งเท่าไหร่ แต่เราก็สามารถรับรู้ความเป็นไปของพวกเขาได้ผ่านกันใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ร่วมกัน จึงทำให้รู้สึกผูกพันกันมากกว่าเดิม

ทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจ เอาใจใส่กันและกันมากขึ้น

ชีวิตของคนเราแต่ละคนย่อมต้องมีมุมที่คนอื่นไม่รู้จักกันอยู่บ้าง แม้ว่าเราจะสนิดชิดใกล้กับใครสักคนมากแค่ไหนก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะยินดีที่จะบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตให้ฟัง หลายครั้งคนเราก็เลือกระบายเรื่องราวของตนเองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพราะทำให้รู้สึกดีที่ได้พูดความในใจออกไป โดยที่ไม่ต้องกังวลไปว่าจะมีใครพูดว่าไม่อยากรับรู้หรือไม่อยากฟัง เมื่อการมีการบอกเล่าเรื่องราวในมุมมองที่แตกต่างไปจากที่เราเคยรู้จัก นั่นจะทำให้เราได้เรียนรู้ว่าแม้แต่คนที่เรารักและห่วงใยก็มีปัญหาในแบบของตัวเอง ทำให้เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ และพยายามเอาใจใส่กันและกันให้มากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับผู้คนในเครือข่ายสังคมที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คนส่วนใหญ่มักอ่อนโยนต่อผู้ที่ประสบพบเจอกับเรื่องราวเลวร้าย ความเจ็บปวดมากมายจะได้รับการเยียวยารักษา ทุกคนที่มีปัญหาจะได้รับฟังข้อเสนอแนะที่ช่วยแก้ไขให้ดีขึ้น มีการรับฟังกันและกันอย่างห่วงใย เห็นอกเห็นใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความดีที่มีอยู่ในจิตใจของคนเรา ทำให้เราได้รู้ว่าผู้คนสามารถใจดีต่อกันได้อย่างง่ายดาย แม้จะไม่เคยรู้จักกันเลยก็ตาม

ช่วยให้คุณพบกันเพื่อนใหม่ที่มีความหลงใหลในเรื่องเดียวกัน

ความหลงใหลในบางสิ่งบางอย่างมักจะเป็นแรงผลักดันให้เราพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้ แต่คงน่าเสียดายหากไม่มีเพื่อนคนไหนเข้าใจความพยายามที่เรามีต่อสิ่งที่เราหลงใหลนั้นเลย แม้เราจะเชิญชวนให้เพื่อนฟังเพลงที่เราชอบ ดูหนังที่เราถูกใจ หรือยื่นหนังสือที่เรารักให้เขาอ่าน นั่นก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะเข้าใจและอินไปกับมัน แต่ด้วยเครือข่ายสังคมออนไลน์กลับทำให้เราสามารถเข้าถึงคนที่มีความชอบเดียวกันได้ในเวลาที่ไม่นาน เราสามารถเล่นมุกเฉพาะกลุ่มได้โดยที่พวกเขาจะเข้าใจความหมาย เมื่อมีข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งที่หลงใหล พวกเขาก็สามารถชื่นชมและร้องไห้ไปพร้อมกัน ไม่มีใครกล่าวตำหนิสิ่งที่พวกเขาชอบว่าไร้คุณค่า เพราะว่าทุกคนต่างคบหากันเพราะความรักในสิ่งเดียวกันนั่นเอง

ทำให้เราเข้าถึงการเรียนรู้สิ่งใหม่ได้อย่างง่ายดาย

การเรียนรู้ของคนเราจะไม่จำกัดแค่เพียงคำบอกเล่าจากอาจารย์หรือการอ่านหนังสืออีกต่อไป เพราะเราสามารถเข้าถึงข้อมูลใหม่ได้ทุกที่และทุกเวลาที่เราต้องการ เราอาจขอให้ผู้คนที่มีความเชี่ยวชาญสอนสิ่งใหม่ผ่านการใช้สื่อสังคมออนไลน์ร่วมกัน และยังสามารถเรียนรู้ผ่านการสื่อสารอื่นอีกมากมาย โซเชียลเน็ตเวิร์คกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตมากในแบบที่หลายคนไม่คาดคิดกันมาก่อน ความกระหายใคร่รู้ที่คนเรามีอยู่ตลอดเวลาทำให้เราไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของตัวเองได้ ตอนนี้เราก็ไม่สามารถที่จะหลีกหนีวิถีชีวิตที่เกี่ยวพันกับสังคมออนไลน์ไปได้เลย

ย่อโลกใบใหญ่ให้กลายเป็นโลกใบเล็กลง

เราทุกคนต่างรู้กันดีว่าโลกใบนี้มีความกว้างใหญ่ไพศาล แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปนานแสนนานก็ไม่สามารถได้ทำให้โลกหดเล็กจนเท่ากับกำมือเราได้เลย ถึงความจริงจะเป็นเช่นนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะกว้างใหญ่จนเราไม่สามารถท่องเที่ยวไปยังที่ที่เราต้องการผ่านสื่อสังคมออนไลน์ไปได้ เพียงแค่เราติดต่อกับใครสักคนที่อยู่ในที่ห่างไกลเราก็สามารถรับรู้ถึงความเป็นไปในสถานที่แห่งนั้นได้อย่างง่ายดาย ช่วยเปิดกว้างในมุมมองต่างๆ ของโลกใบนี้ ทำให้เราเข้าใจและเปิดใจรับสิ่งใหม่ที่ไม่เคยรู้จักคุ้นเคยมาก่อน

เราสามารถมองเห็นหิมะที่กำลังตกในอีกฟากหนึ่งของโลกได้ในขณะที่กำลังนั่งอยู่กลางแสงแดดผ่านการใช้งานอินเตอร์เน็ต เราสามารถท่องเที่ยวไปได้มากหลายหลายที่แม้เราจะไม่มีเงินที่เดินทางไปให้เห็นเองกับตา แต่เราก็สามารถท่องผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อชมรูปภาพ แสง สี เสียง วิดีโอที่เกี่ยวข้องของที่ที่เราต้องการที่จะไปได้ง่ายๆ สามารถรับรู้ถึงข้อมูลข่าวสาร ความคิดอ่านของผู้คน ความเชื่อ สามารถเรียนรู้และเข้าใจวิถีชีวิตของพวกเขาได้ แม้ในความเป็นจริงนั้นเราจะยังนอนเล่นอยู่ในห้องนอนของตัวเองอยู่ก็ตาม

เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นเครือข่ายสังคมที่ทรงพลังยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับสังคมในโลกจริงๆ และยังคงมีความเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ การดำเนินงานของธุรกิจต่างๆ ก็เช่นกัน การใช้สื่อสังคมออนไลน์กลายมาเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาสามารถเติบโตก้าวหน้าได้ไกลกว่าใครๆ หากละเลยไปก็อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลังคู่แข่งได้โดยไม่รู้ตัว ทุกวันนี้เราทุกคนต่างพึ่งพาอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ความต้องการในการใช้งานแต่ละวันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากเราต้องการที่จะก้าวให้ทันกับความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในสังคมก็จะเป็นจะต้องศึกษาเรียนรู้ไปอย่างไม่สิ้นสุด หากเมื่อใดที่เราหยุดเรียนรู้สื่อสังคมออนไลน์ เราก็จะกลายเป็นผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้โดยไม่รู้ตัว